คุณจะทำอะไรเพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับวัตถุดิบที่ใช้เพื่อป้องกันสนิมจากการถูกทำลายและเสริมสร้างความพอใจให้ลูกค้าของคุณ?
บรรจุภัณฑ์ป้องกันสนิมที่คุณใช้บรรจุชิ้นส่วนโลหะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้หรือไม?
- เข้าถึงพื้นที่ที่ยากต่อการแทรกซึม,รวมไปถึงหลุมและรอยแยกต่างๆ
- ให้การป้องกันสนิมที่ยาวนานตั้งแต่ 1 ปีเป็นต้นไป
- ช่วยทำให้ง่ายต่อการขจัดชั้นของสารป้องกันสนิม เช่นน้ำมันกันสนิม หรือจารบีเพื่อลูกค้าของคุณจะได้ใช้งานชิ้นส่วนโลหะได้ทันทีที่ถึงมือลูกค้า
ถ้าคำตอบข้อใดข้อหนึ่งคือไม่และล่ะก็ มันก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องประเมินวิธีการป้องกันสนิมและคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้บรรจุชิ้นส่วนโลหะของคุณซะใหม่
กระบวนการป้องกันสนิมของคุณ: ถามให้ตรงประเด็น
ในกรณีส่วนมากมันจำเป็นต้องมีการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญในการระบุปัญหาการผุกร่อนของคุณ แต่มันก็มีข้อควรพิจารณาที่คุณต้องตระหนักเวลาเลือกซื้อบรรจุภัณฑ์ตัวใหม่
- ชนิดของวัตถุดิบที่จะบรรจุคืออะไร? (จำไว้ว่าคำถามนี้ไม่ใช่แค่ในชนิดโลหะแต่ยังรวมไปถึงวัสดุอื่นๆเช่นไม้และพลาสติกซึ่งอาจจะส่งเสริมกระบวนการการผุกร่อนได้)
- ขนาดแบะรูปทรงของชิ้นส่วนโลหะที่จะต้องทำการบรรจุ?
- สภาวะแวดล้อมในขั้นตอนการจัดเก็บและขนส่งเป็นแบบไหนและระยะเวลาของทั้งสองกระบวนการยาวนานแค่ไหน?(คำถามนี้ไม่ได้แค่สามารถระบุตัวบรรจุภัณฑ์ที่จะใช้ห่อหุ้มหรือปกคลุมเท่านั้นมันยังสามารถระบุว่าวัตถุดิบตัวไหนบ้างที่ควรจะถูกนำไปใส่รวมกันในพื้นที่บรรจุภัณฑ์นั้นๆ)
หลังจากที่คุณได้รวบรวมข้อมูลแล้ว ก็มาถึงเวลาที่คุณต้องมาดูเรื่องวิธีการป้องกันของคุณ ซึ่งมันสามารถแบบออกได้เป็นสองกรณีคือ การป้องกันการผุกร่อนทางกายภาพและการป้องกันการผุกร่อนทางเคมี
มาติดตามกันต่อในตอนหน้าว่า ความแตกต่างของการผุกร่อนทั้งสองแบบนั้นเป็นอย่างไร